
พี่ปลานิลจะมารีวิวประสบการณ์เรียนต่อ MA Media, Culture and Society ที่ University of East Anglia
Q: เหตุผลที่เลือกเรียน Course นี้ และมหาวิทยาลัยนี้คืออะไร?
พี่ปลานิล: เหตุผลหลักที่มาเรียนคอร์สนี้คืออยากลองศึกษาวิจัยเกี่ยวกับวิดีโอเกมในแง่ของสังคมศาสตร์-มนุษย์ศาสตร์ ซึ่งมีคนทำที่ไทยน้อยมาก บวกกับตัวเราที่มีพื้นฐานด้านศิลปศาสตร์จากปริญญาตรีมาแล้ว ก็เลยคิดว่าเรียนทางด้านสื่อและสังคมศาสตร์น่าจะเหมาะที่สุด หลังจากที่ดูคอร์สของมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็พบว่าที่ UEA ตอบโจทย์ที่สุดในหลายแง่ เช่น มีรายวิชาที่สอดคล้องกับความอยากรู้ของเราที่มีทั้งด้านการศึกษาสื่อ วัฒนธรรม สังคม (ตามชื่อคอร์สเลย 555) มีอาจารย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน video game studies ค่าเรียนที่ไม่แพงเกินไป มีทุนให้ และเมืองที่ดูสงบ ปลอดภัย แล้วก็ไม่ไกลจากเมืองหลวงอย่างลอนดอน สุดท้ายจึงตัดสินใจเลือกที่นี่ครับ
Q: ความประทับใจแรก (first impression) ของ UK
พี่ปลานิล: ธรรมชาติสวยมากครับ ระหว่างทางที่นั่งรถจากสนามบินมาที่นอริชก็ได้พบตั้งแต่ที่ราบ เนินเขา แม่น้ำ ป่าไม้ ไปจนถึงสถาปัตยกรรมต่างๆ จากยุคก่อนๆ เช่นพวกโบสถ์ เมือง ปราสาท หรือแม้แต่เสาหินจากยุคโรมัน ก็ยิ่งทำให้ประเทศนี้ดูขลังและมีเสน่ห์แบบยุโรปคล้ายกับในเทพนิยายหรือในภาพยนตร์ที่เราดู
Q: First impression ของมหาลัยหลังจากที่ได้มาเรียนที่นี่? มีอะไรต่างจากที่คิดไว้รึเปล่า
พี่ปลานิล: ตอนแรกรู้ว่า UEA มีแคมปัสที่ค่อนข้างจะเน้นธรรมชาติ แต่ก็ไม่นึกว่าจะมีธรรมชาติเยอะขนาดนี้ ตัวแคมปัสทางเหนือจะเป็นโซนตึกเรียนต่าง ๆ และหอพัก ซึ่งวันเรียนส่วนใหญ่ก็จะอยู่กันในบริเวณนี้ เดินจากหอไปตึกเรียน ไปห้องสมุด หรือใจกลางของแคมปัสที่จะมีแทบทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต ส่วนทางฝั่งใต้จะเป็นโซนธรรมชาติล้วนๆ ตั้งแต่ทะเลสาบ ลงไปจนถึงทางเดินในป่า ไร่สตรอว์เบอร์รี แม่น้ำ Yare หรือถ้าเดินลงไปอีกก็จะเป็นบึง ถ้าใครชอบธรรมชาติก็น่าจะชอบที่นี่ สิ่งที่ต่างจากที่คิดก็คือพออยู่ไปซักพักก็จะเริ่มคิดถึงเมืองขึ้นมา 5555 แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะเราก็สามารถขึ้นบัสจากในแคมปัสเข้าเมืองนอริชได้เลย หรือถ้าอยากไปเมืองใหญ่ก็สามารถขึ้นรถโค้ชจากแคมปัสยิงตรงไปถึงลอนดอนหรือเบอร์มิงแฮมเลย

Q: นอกจากเรียนหนังสือ มีทำกิจกรรมอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยบ้างมั้ย กิจกรรมที่ชอบมากที่สุดคืออะไร (ในหรือนอกมหาลัยก็ได้)?
พี่ปลานิล:
กิจกรรมที่นี่มีเยอะมาก และมีหลากหลายด้วยครับ ตั้งแต่มีกิจกรรมเชิงวิชาการอย่างการเสวนาหรือบรรยายหัวข้อวิชาการต่าง ๆ คลาส workshop ที่จะแนะนำเทคนิคต่างๆ ในการเรียน กิจกรรมกีฬา มีชมรมกีฬาให้เลือกมากมายตั้งแต่ฟุตบอล แบดมินตัน หรือใครชอบ outdoor ก็มีชมรมปีนเขาหรือดำน้ำด้วย มีกิจกรรมผ่อนคลายอย่าง coffee break ที่จะให้นักศึกษาและอาจารย์ใน school เดียวกันได้มาสังสรรค์พูดคุยกัน หรือสมาคม (society) ที่มีตั้งแต่สมาคมเกี่ยวกับวิชาการอย่าง History society, Math society ไปจนถึงแนวบันเทิงอย่าง E-sports society หรือแม้แต่ Anime society ก็มี โดยแต่ละ society ก็จะมีการพบปะสังสรรค์ ทำกิจกรรมร่วมกันเป็นครั้งคราว
ส่วนกิจกรรมที่ชอบมากที่สุดก็คงเป็น Take Five ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดโดยทีม Mental Health and Wellbeing ของทางมหาวิทยาลัย หลักๆ ก็คือเป็นกิจกรรมที่มีบอร์ดเกมมาให้เล่น แล้วก็มีขนม เครื่องดื่มเตรียมให้ เป็นช่วงเวลาที่ดีให้เราได้ผ่อนคลายจากการเรียน และเปิดโอกาสให้ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ด้วยเช่นกัน
ส่วนตัวเราเป็นคนชอบเที่ยว ชอบเดิน ชอบสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ที่นี่ก็มีกิจกรรมที่ตอบโจทย์ความชอบเราเหมือนกัน ไปเที่ยวเมืองใหญ่มันแพงไป ก็ไป Daywalk แทน ซึ่งเป็นกิจกรรมของ Daywalk society โดยทาง society จะจัดทริปพาเราไปเดินในสถานที่รอบๆ เขต Norfolk ซึ่งก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้สำรวจ hidden gems ของเขตนี้ที่มีตั้งแต่แม่น้ำ ป่า ไปจนถึงชายทะเล ใช้เวลาเดินกันประมาณครึ่งวันต่อทริป หรือถ้าใครไม่อยากเดินเยอะก็มีทริปของ Navigate Norfolk ที่จัดโดยทางมหาวิทยาลัยเอง ซึ่งจะมีระยะทางที่สั้นกว่าและสถานที่ก็ต่างกันด้วย สามารถเลือกได้ตามใจชอบเลย
Q: ขอคำนิยามสำหรับเมืองนี้? บอก 3 สิ่งที่ไม่ควรพลาด ถ้าได้มาที่เมืองนี้?
พี่ปลานิล: เมืองไม่ใหญ่ที่มีเสน่ห์และเหมาะกับการมาใช้ชีวิต ถ้าใครมีโอกาสได้มาเที่ยวก็มี 3 สิ่งที่ไม่ควรพลาดด้วยกันครับ เริ่มที่ Norwich Market ซึ่งเป็นตลาดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีขายแทบทุกอย่างตั้งแต่อาหาร ขนม เครื่องใช้ ที่สำคัญคือมีร้านขายวัตถุดิบจากเอเชียรวมทั้งไทยด้วย ถัดจากนั้นก็ไปต่อที่ Norwich Castle ปราสาทสไตล์นอร์แมนที่ตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างตามคำสั่งของ William the Conqueror โดยใช้อิฐนำเข้าจากนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส ค่าเข้าประมาณ 7 ปอนด์ แต่ถ้าไม่อยากเสียตังค์ เดินเล่นรอบ ๆ เนินเขาของปราสาทเพื่อชมวิวมุมสูงของเมืองก็ได้ ใต้ปราสาทก็มี Castle Quarter ที่เป็นแหล่งชอปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเช่นกัน และที่สุดท้ายก็คงไม่พ้น Norwich Cathedral ซึ่งเป็นวิหารที่โด่งดังที่สุดของเมืองนี้ สร้างโดยใช้อิฐจากนอร์มังดีเหมือนกับปราสาท ค่าเข้าฟรี และไม่ไกลจากตัววิหารก็มี Elm Hill ที่เป็นถนนสายเก่าของเมืองที่มีตึกแนว Tudor ตั้งอยู่ข้างทาง ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดไปในอังกฤษยุคกลาง ถ้าใครชอบเดินชมเมืองก็น่าจะชอบเมืองนี้ครับเพราะเมืองไม่ใหญ่เกินไป สามารถเดินชมความสวยงามของเมืองได้เพลินๆ
พี่ปลานิล: 3 สิ่งที่ recommend: Norwich Market, Norwich Castle, Norwich Cathedral

Q: ขอรีวิวถึงการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยนี้ให้ฟังหน่อย
(ในเรื่องของ : อาหารการกิน, การเดินทาง, สถานที่เที่ยว, หอพัก และความเป็นอยู่ต่างๆ)
พี่ปลานิล: ในแคมปัสมีสิ่งอำนวยความสะดวกและสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตครบครันครับ ตั้งแต่สถานที่กิน ร้านค้าสำหรับซื้อของที่จำเป็น ห้องสมุด ศูนย์การแพทย์ คาเฟ่ หรือแม้แต่บาร์ หอพักก็มีห้องน้ำและครัวให้ครบ ความปลอดภัยสูง เพราะมียามตลอด 24 ชั่วโมง สถานที่ผ่อนคลายหรือเล่นกีฬาก็มีทั้งทะเลสาบ สวนสาธารณะ โรงยิมขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์ทางการกีฬามากมาย และสิ่งที่โด่งดังที่สุดของมหาวิทยาลัยก็คงหนีไม่พ้น The Sainsbury Centre พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่ในแคมปัส และเป็นสถานที่ถ่ายทำศูนย์บัญชาการของทีม The Avengers ด้วย สามารถขึ้นบัสจากในมหาวิทยาลัยเข้าไปในตัวเมืองนอริชได้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ตัวเมืองสามารถเดินเที่ยวได้สบายเพราะเมืองไม่ใหญ่มาก ถ้าหาซื้ออะไรจากในแคมปัสไม่ได้ก็สามารถเข้ามาซื้อในเมืองได้เช่นกัน หรือถ้าใครเบื่อนอริช เมืองที่อยู่ไม่ไกลก็จะมี Great Yarmouth หรือ Sheringham ซึ่งเป็นเมืองติดทะเล, Cambridge เมืองมหาวิทยาลัยชื่อดัง และ London เมืองหลวงของสหราชอาณาจักร ซึ่งที่กล่าวมานี้เราสามารถนั่งรถโค้ชหรือรถไฟไปได้โดยตรงเลย ส่วนเมืองดังอื่นๆ ที่ไปได้โดยไม่ต้องต่อรถไฟก็จะมีตั้งแต่ Liverpool, Manchester, Nottingham ขึ้นรถไฟจากสถานีนอริชแล้วยิงตรงไปเมืองเหล่านี้ได้เลย หรือใครอยู่ในมหาวิทยาลัยแล้วขี้เกียจเข้าไปในเมืองนอริช ก็มีรถโค้ชเข้ามาในมหาวิทยาลัยที่สามารถพาเราไปถึง London และ Birmingham ได้โดยตรงเลยเช่นกัน (ส่วนตัวแนะนำว่าถ้าอยากประหยัดเงินก็ให้นั่งรถโค้ช หรือถ้าเน้นเร็วก็ให้นั่งรถไฟ ยิ่งถ้ามี railcard ก็จะได้ส่วนลดถึง 1 ใน 3 ของค่าตั๋ว แต่บางทีก็ต้องเช็กดีๆ เพราะบางที่ค่ารถโค้ชก็พอกับค่ารถไฟครับ)
Q: พักหอไหน ช่วยเรทเรื่อง location, facilities หรือ comment หอให้ฟังหน่อย
พี่ปลานิล: ในตอนแรกจะได้พักที่ Nelson Court ที่เป็น Two Bedroom Unit คืออยู่เป็นห้องกับรูมเมตอีกคนที่แยกห้องนอนกัน แต่ต้องใช้ห้องน้ำกับครัวร่วมกัน แต่ก่อนวันบินมาประมาณ 3 วันก็มีเมลมาแจ้งเตือนว่าเขาจำเป็นต้องปิดห้องนั้นเพราะต้องซ่อมแซมคอนกรีต ก็เลยได้ย้ายมาอยู่หอ Paston House แทน ซึ่งเป็นแบบ Ensuite ห้องน้ำในตัว แต่แชร์ครัวร่วมกับ flatmate คนอื่น แต่จ่ายในราคาหอเดิม (ซึ่งถูกกว่า) สำหรับเรื่อง location ก็นับว่าไม่ไกลจากศูนย์กลางของแคมปัสมากนัก ใช้เวลาเดินไม่เกิน 5 นาที แต่อาจจะไกลจากตึกเรียนส่วนใหญ่ซะหน่อย ซึ่งก็ใช้เวลาเดินไม่เกิน 15 นาที ข้อดีอีกอย่างของที่นี่ก็คืออยู่ใกล้กับตึก INTO ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเป็นตึกที่มีอาหารอร่อย คุณภาพดี และราคาดีที่สุดในมหาวิทยาลัย 555555 เวลาขี้เกียจทำอาหารก็สามารถเดินไปที่ INTO ได้เลย และก็ยังอยู่ใกล้ศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยมากๆ ส่วน facilities ต้องบอกก่อนว่าหอนี้เป็นหอค่อนข้างเก่า พวก facilities ก็เลยแอบเก่าๆ หน่อย แต่ทุกอย่างก็ยังใช้ได้ดีตามปกติ ข้อเสียหลักของหอนี้ก็คงเป็น โซนที่เราอยู่มันไม่มีลิฟต์ ก็คือต้องเดินขึ้นบันได 4 ชั้นมา วันแรกที่ต้องขนของอาจจะลำบากหน่อย แต่หลังจากนั้นก็ชินไปแล้ว 55555
Q: การใช้บริการที่ BRIT - Education UK พี่ counsellor คนไหนที่เป็นคนดูแล / มีความประทับใจอะไรบ้าง / เต็ม 10 คะแนน ให้คะแนนเท่าไหร่
พี่ปลานิล: พี่ปลื้ม BRIT - Ed ทำงานได้ละเอียดดีมาก เวลาสอบถามข้อมูลต่างๆ ก็สามารถให้คำตอบมาได้ดี เวลาไม่มั่นใจอะไรก็สามารถถามได้ตลอด ตั้งแต่ตอนที่เตรียมสมัครเรียน ยื่นวีซ่า ไปจนถึงตอนก่อนจะบิน แนะนำได้อย่างดีว่าควรจะทำอะไรตอนไหน มีอะไรต้องทำบ้าง ทำให้เห็นภาพรวมของ process ได้ตั้งแต่ตอนที่เริ่มต้นสมัคร จนถึงตอนที่เตรียมตัวบินมาเรียน ถึงแม้การตัดสินใจหลายอย่างเราต้องตัดสินใจเอง แต่พี่ปลื้มก็ให้ข้อมูลมาอย่างละเอียดเพื่อช่วยให้เราตัดสินใจได้เหมาะกับตัวเองที่สุด ประทับใจในการทำงานมากครับ ให้ 10 เต็มไปเลย
Q: ฝากถึงเพื่อน ๆ ที่สนใจจะไปเรียนต่อที่ UK
พี่ปลานิล: ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีครับในการไปเรียนต่อที่ UK นอกจากจะได้รับความรู้ใหม่ๆ แล้ว ก็ยังได้เปิดโลกกว้าง เปิดโอกาสให้ตัวเองได้เติบโตในสภาพแวดล้อมใหม่ เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ และยังได้คอนเนกชั่นจากทั่วโลกด้วย ถ้าใครสนใจก็สามารถใช้บริการ BRIT - Ed ได้เสมอครับ พี่ๆ ใจดีและทำงานเก่งมากกก ทำให้ตั้งแต่การสมัครเรียนจนถึงตอนเตรียมตัวบินกลายเป็นเรื่องง่ายเลยครับ
น้องๆ คนไหนที่สนใจอยากไปเรียนต่อที่ University of East Anglia สามารถทักพี่ๆ BRIT - Ed มาได้เลยนะคะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสมัครเรียน
ติดต่อพี่ๆ BRIT-Ed ได้ที่ Line ID: @brit-ed
Tel: 02-168-7890, หรือลงทะเบียนที่แบบฟอร์มด้านล่างบริการทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ
You must be logged in to post a comment.