พี่ยุ้ยจะมารีวิวการเรียนสาขา MSc Agriculture and Food Science, Newcastle University
Q: ตอนที่ไปเรียน ทำไมถึงเลือกมหาวิทยาลัยนี้นะคะ
พี่ยุ้ย: เพราะว่ามีรุ่นพี่ที่รู้จักกัน แนะนำเรื่องค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก สภาพแวดล้อมรอบๆมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างสะดวกสบายมากๆค่ะ City Centre ติดกับมหาลัย ติดกับหอที่พักอยู่ ติดกับร้านค้าต่างๆ ถือว่าสะดวกสบายสามารถเดินไปได้โดยที่ไม่ต้องนั่งรถบัสไป
Q: ถ้าให้เลือกวิชาที่เรียนแล้วชอบที่สุด มีวิชาอะไรบ้างคะ ยกตัวอย่างซักสองสามวิชาได้มั้ยคะ แล้วก็ที่ชอบเพราะว่าอะไร
พี่ยุ้ย: ด้วยความที่ว่ายุ้ยเรียนเกี่ยวกับดินเกี่ยวกับการเกษตรค่ะ วิชานี้ Soil and Land Resources - Assessment and Management สนุกที่สุด เพราะว่าอาจารย์ใส่ใจสอนค่อนข้างดีมากเลยค่ะ เตรียมการสอนดีมาก ๆ ก็เลยทำให้เวลาที่เรียน เข้าใจมาก ๆ ค่ะ อีกวิชาก็จะเป็นเกี่ยวกับ Innovations in Agriculture Technology and Engineering to Support Sustainable Production ก็จะสอนเกี่ยวกับประมาณว่าให้รู้ว่าในการเกษตรมีเทคโนโลยีมีเครื่องมือที่ทันสมัยอะไรบ้างในการช่วยเรื่องของการผลิต ทำให้การเรียนมันน่าสนใจมาก ๆค่ะ ยิ่งได้เห็นอุปกรณ์หรือเครื่องมือจริง ๆ ที่มีราคาแพงกมาก ๆ ก็ช่วยทำให้การเรียนของเรารู้สึกสนุกมากขึ้นค่ะ ส่วนวิชาสุดท้ายคือ Data Analytical ค่ะ สอนเกี่ยวกับ Statistic ค่ะ อาจารย์สอนดีมาก ๆเลยค่ะ สามารถเอาความรู้ที่ได้เรียนจากวิชานี้เอาไปใช้ในการทำงานในชีวิตจริง ซึ่งมันดีมากๆค่ะ

Q: มีได้ทำ project แบบที่เป็น Lab รึเปล่าคะ แล้ว Lab หรือ research ด้านนี้ของมหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง
พี่ยุ้ย: มีค่ะ ตอนเทอม 1 ค่ะ เข้า Lab วิเคราะห์เรื่องของดินค่ะ วิเคราะห์ธาตุอาหารที่มีอยู่ในดิน ที่เราเอาดินที่เก็บมาจากพื้นที่ฟาร์มต่าง ๆแล้วเอามาวิเคราะห์ค่ะ ถ้าตอนนี้ไม่เกิด Covid – 19 ก่อนก็จะได้ทำวิเคราะห์พวกรากของพืชและสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในดิน ที่ทำให้พืชเจริญเติบโตค่ะ แต่ก็ต้องถูกยกเลิกไป ก็น่าเสียดายนิดนึงค่ะ
3.1 มีโอกาสได้ research funding เพื่อเรียนต่อ ป เอกมั้ยคะ
พี่ยุ้ย: มีค่ะ แต่ส่วนใหญ่ต้องการ EU Student มากกว่าค่ะ ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แต่เท่าที่ถามเพื่อนๆ ก็คือต้องหาทุนเองก่อนค่ะ ถ้าไม่มีก็อาจจะต้องไปปรึกษากับมหาลัยก่อนค่ะว่าพอจะช่วยเราในส่วนของตรงนี้ได้มั้ย

Q: Dissertation ยากมั้ย ต้องเขียนกี่ Word ทำเป็นกลุ่มหรือเดี่ยว
พี่ยุ้ย: ตอนนี้ยุ้ยเพิ่งส่งตัว Proposal ไปค่ะ / Dissertation จริง ๆแล้วไม่ยากอย่างที่คิดนะคะ จะต่างจากที่ไทยมาก ๆ ค่ะ ตอนเรียนปริญญาตรีค่อนข้างที่จะจริงจังกว่านี้มาก ๆค่ะ พอมาเรียนที่อังกฤษมันดูง่ายมากค่ะประมาณว่าเป็น Short Term Project ง่ายๆ ไม่จริงจังมาก มหาลัยแค่อยากให้เรารู้เรื่องของการวางแผน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าค่ะ ของยุ้ยทำเป็นงานเดี่ยวค่ะ ทางอาจารย์มีหัวข้อมาให้เราเลือกค่ะ แต่ถ้าอยากจะทำนอกเหนือจากหัวข้อของอาจารย์ก็ทำได้นะคะ แจ้งอาจารย์ได้เลยค่ะ แล้วอาจารย์ก็จะหาอาจารย์ที่เหมาะที่สุดให้กับเราค่ะ
Q: เพื่อนๆใน Class ส่วนใหญ่มาจากไหนกันคะ
พี่ยุ้ย: ครึ่งนึงมาจากจีนค่ะ 50% / 40% เป็นแอฟริกาค่ะ / 5% เป็น UK กับ EU และอีก 5% สุดท้ายเป็น เอเชียค่ะ

Q: สิ่งแวดล้อมบรรยากาศในการเรียนเป็นยังไงบ้างนะคะ สนิทกับเพื่อนๆ มั้ย
พี่ยุ้ย: ยุ้ยก็จะมีเพื่อนที่เป็นคนจีนส่วนใหญ่ค่ะ เพื่อนแอฟริกาก็จะเป็นเหมือน Entertainer ในห้องเรียนค่ะ ช่วยสร้างสีสัน ก็เวลาเรียนอย่างที่รู้กันคือเด็กเอเชียก็จะนั่งเงียบๆกัน ไม่ค่อยจะถามหรือแสดงความคิดเห็นมากสักเท่าไหร่ค่ะ แต่ส่วนมากในห้องเรียนก็จะมีนักเรียน EU UK แอฟริกาค่ะ ที่แสดงความคิดเห็นหรือถามคำถามในห้องเรียนตลอดเลยค่ะ มันน่าจะเป็นเพราะเรื่องของภาษาด้วยค่ะที่เรายังไม่เข้าใจมาก เลยทำให้ต้องพยายามมากกว่านักเรียนคนอื่น ๆ อ่านหนังสือเยอะๆ จะได้ตามทันเวลาเรียนในห้องเรียนค่ะ
Q: อาจารย์แต่ละท่านเป็นยังไงบ้างคะ ตัดเกรดโหดมั้ย อาจารย์ Support หรือเข้าหาง่ายมั้ย
พี่ยุ้ย: อาจารย์ตัดเกรดไม่โหดค่ะ เพราะงานส่วนมาเป็นแบบ assignment ค่ะ เขียนและทำให้ดีก็พอแล้วค่ะ อาจารย์ค่อนข้างคุยงานค่ะ เข้าหาง่ายค่ะเป็นกันเอง
Q: มหาวิทยาลัยมี Service ช่วยดูหรือหาที่ฝึกงาน หรือทำ project กับบริษัทมั้ยคะ
พี่ยุ้ย: คอสที่ยุ้ยเรียนจะไม่มีเทรนนิ่งค่ะ มีแค่ Dissertation ค่ะ
น้องๆ คนไหนที่สนใจอยากไปเรียนต่อที่ Newcastle University สามารถทักพี่ๆ BRIT - Ed มาได้เลยนะคะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสมัครเรียน
ติดต่อพี่ๆ BRIT-Ed ได้ที่ Line ID: @brit-ed
Tel: 02-168-7890, หรือลงทะเบียนที่แบบฟอร์มด้านล่างบริการทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ
You must be logged in to post a comment.