รีวิว MSc Real Estate, University of Reading
University of Reading: MSc Real Estate
รู้จักกันหน่อย
- ชื่อ วิน ครับ ก่อนหน้านี้ผมเรียนปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์ วิชาเอกเศรษฐศาสตร์การเงิน วิชาโทการเงิน ภาคภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมเลือกเรียนคณะนี้เนื่องจากทางบ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับที่นอน และเห็นว่ามีความสอดคล้องกับตลาดบวกกับโอกาสที่อาจก้าวข้ามไปธุรกิจด้านอื่นๆ จึงเลือกเรียน Real Estate
เหตุผลที่เลือก University of Reading
- ตอนแรกที่ดูไว้จะมี Reading, Manchester, Liverpool, LSE และ Sheffield เหตุผลหนึ่งที่เลือกมหาลัยนี้ เนื่องจากการจัดเหตุผลหนึ่งที่เลือกมหาลัยนี้ เนื่องจากการจัดอันดับของ Real Estate ใน UK ทาง University of Reading นั้นได้อันดับต้นจึงเลือกเรียนที่นี้ หลังจากที่ผมตัดสินใจเลือกที่นี้แล้ว ทางคณะจะใช้หลักเกณฑ์ที่คล้ายๆ กันเกือบหมดในตัว Henley Business School ก็คือ
- ผลทดสอบภาษาอังกฤษ IELTS Score of 7.0 overall with no component less than 6.0 หรือ Internet Based TOEFL Score of at least 100 with a minimum of 20 in Listening, Writing and Reading and 21 in Speaking หากคะแนนเราไม่ถึงก็สามารถเรียน Pre-Session ได้ซึ่งจะเกณฑ์กำหนดมาให้ว่าต้องใช้เท่าไหร่บ้าง และเรียนเพิ่มเติมอีกกี่อาทิตย์
- ผลการเรียน upper second class honors degree or equivalent ซึ่งจะขึ้นอยู่กับมหาลัยในระดับปริญญาตรี โดยในแต่ละมหาวิทยาลัย เกรดที่ทาง University of Reading ต้องการไม่เหมือนกันต้องเช็คกับทางมหาวิทยาลัย
การเตรียมตัวก่อนมา
- หลังจากนั้นเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็ต้องเช็คว่าเราต้องถึง UK วันที่เท่าไหร่ โดยตารางที่เกี่ยวข้องจะมีการส่งมาทางอีเมลล์ การจองตั๋วเครื่องตัวผมเองเป็นคนจองเองทั้งหมด จะเป็นตั๋วปีหรือขาเดี่ยวก็ขึ้นอยุ่กับช่วงเวลา และราคา ในส่วนของวีซ่านั้นก็มีการสัมภาษณ์ซึ่งไม่ได้ยากมากนักแค่ตอบว่าเราไปเรียนอะไรที่ไหนอย่างไรก็เป็นอันผ่านที่เรียบร้อย ส่วนในการเดินทางนั้นเนื่องจากความโชคดีที่พี่ๆทาง Brit-ed ได้แนะนำให้รู้จักกับเพื่อนที่จะไปพร้อมกัน พี่ๆ Brit-Education UK เลยให้เราติดต่อกัน ทำให้ผมมีเพื่อนไปเรียนด้วย และนอกจากนี้พี่ ๆ Brit-ed ยังช่วยให้คำแนะนำก่อนผมเดินทาง หลังจากนั้นพวกเราทั้งคู่ก็เลยได้เดินทางไปยังประเทศอังกฤษพร้อมกัน โดยในวันแรกที่ถึงรู้สึกได้เลยว่าสำเนียง UK ฟังได้ยากกว่าชัดเจนเหมือนเทียบกับสำเนียง USA อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวสักพัก
วันแรกของการไปถึง
- เมื่อไปถึงอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการสื่อสารอาจจะยากหน่อยในช่วงแรกก็ต้องปรับตัวกันไปเนื่องจากผมต้องเรียน Pre-Session ภาษาอังกฤษเลยได้มีโอกาสพักในหอพักของทางมหาวิทยาลัย Reading และในช่วงเรียนปริญญาโทได้พักหอนอกในเมือง Reading ก็เลยเทียบได้ว่าราคาที่จ่ายไปนั้นมีส่วนต่างไม่มากหากต้องการหอพักที่ค่อนข้างส่วนตัวก็แนะนำหอนอกมหาลัย หากอยากเข้าสังคม และพบปะกับเพื่อนต่างชาติก็แนะนำหอในมหาลัย Reading ส่วนในเรื่องอุปกรณ์ในห้องพักอาจเทียบกันได้ยาก เพราะหอในมีทั้งเก่า และใหม่ ส่วนมหาวิทยาลัยนั้นก็จะมีระบบ IT ไม่ว่าจะเรื่องการยืมหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์ การเข้าถึงฐานข้อมูลออนไลน์ การส่งงาน หรือข้อสอบนั้นจำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อใช้การเรียนปริญญาโท
คณะที่เรียน
- ผมเรียน Real Estate ก็จะเรียนเกี่ยวกับการลงทุน และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยจะแบ่งวิชาหลักเป็น 3 สายประกอบด้วย 1.Valuation 2.Fund Management 3.Development ก็ต้องเลือกว่าอยากเรียนสายไหนในเทอมที่ 2 และมีวิชาให้เลือกอีกสองวิชาตามที่เราสนใจ ตอนแรกผมจะเลือกเรียนวิชา Quantitative แต่เนื่องได้มีการเปลี่ยนหลักสูตร และได้รู้ว่าเนื้อหา Core ในปริญญาโทนั้นค่อนข้างทับกับเนื้อหาในปริญญาตรีมากๆ จึงเลือกเรียนวิชาที่ตัวเองคิดว่าถนัด และเน้นสอบเยอะๆ เพราะไม่อยากทำงานส่งอาจารย์ ส่วนความยากง่ายถ้าหากสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนมาตอน ป.ตรี และข้ามสายมา (ไม่ได้มาจากคณะที่เรียนเกี่ยวกับธุรกิจ) อาจจะยากหน่อยเนื่องจากเป็นเนื้อหาที่ไม่คุ้นเคย แต่หากเรียนมาทางคณะที่เกี่ยวกับธุรกิจนั้นคงไม่ยากมากนัก ในส่วนเรื่องการสอนทาง UK ปริญญาโทใช้เวลา 1 ปี และรวบรัดหลายๆ อย่างเลยอาจจะต้องอ่านเพิ่มเติมเพื่อให้เข้ามากขึ้น
ระบบการสอบ
- การสอบจะมีทั้งคิดเลขแนะให้เหตุผลเป็นประโยค โดยสัดส่วนของคิดเลขนั้นน้อยมากๆยกเว้นในวิชาการเงิน และส่วนใหญ่จะเป็นวิชาที่สอบ 100% และทำงาน 100% ส่วนน้อยมากนักที่จะมีทั้งสอบ และงาน จึงทำให้ถ้าเราเลือกแต่วิชาที่สอบ ก็จะมีงานน้อยมากๆ ซึ่งผมก็เลือกแบบนี้ นอกจากนี่ยังมีต้องไปทำโปรเจคในประเทศที่อยู่ในแทบ EU และ มีทัศนศึกษาต่างเมืองใน UK เพื่อนำไปทำงาน
อุปสรรคในการเรียน
- อย่างที่ผมกล่าวไปว่าผมเลือกวิชาที่คิดว่าตัวเองถนัดและสอบค่อนข้างเยอะ จึงไม่ได้มีปัญหาหรืออุปสรรคในการเรียนสักเท่าไหร่ แต่จะมีบางวิชาที่ต้องเขียนตอบเป็นเนื้อหาและการสื่อสารเราอาจทำได้ไม่ดีเท่าเจ้าของภาษาเลยทำให้ได้คะแนนน้อย
การต้องปรับตัวทางวัฒนธรรม
- ก็จะเป็นเรื่องความเกรงใจ ทางชนชาติตะวันตกนั้นจะไม่รู้จักคำนี้ จะเป็นการพูดตรงๆเอาซะมากกว่า และชนชาติตะวันตกเป็นคนที่ outgoing มากกว่าคนเอเชียอย่างเห็นได้ชัด ก็ถ้าจะปรับตัวผมคิดว่าน่าจะเป็นที่ตัวเรามากกว่าที่ควรจะปรับตัวเข้าหากับคนต่างชาติในการเข้าสังคม
กิจกรรมในวันว่าง
- ผมเล่นเกม ดู Netflix ฟิตเนส เคยลองทำงาน part-time พวกร้านอาหาร ต้องบอกว่าในเมือง Reading นั้นมีร้านอาหารไทย และ เกาหลีที่เปิดรับเด็กทำงานซึ่งเงินก็ค่อนข้างดี แถมมีข้าวให้กินด้วยนะถือว่าช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายมากเลย และ บางทีผมก็ไปเที่ยวในที่ต่างๆ
กิจกรรมมหาลัย
- ทางตัวคณะ Real Estate ก็จะมีการจัดกิจกรรมทั้งต้อนรับปฐมนิเทศและมัชฌิมนิเทศ จะมีทั้งปาร์ตี้เล็ก และงานเป็นทางการ ก็จะเป็นการเข้าสังคมพบปะผู้คนในคณะ และก็จะมีงานโปรเจคที่เราต้องไปทำร่วมกับเพื่อนร่วมคณะในต่างประเทศ และได้ทำร่วมกับทั้งบริษัทเอกชนและสถาบันการศึกษาอื่นด้วย
ความงามของ University of Reading
- ตัวมหาลัยจะใหญ่มากมีทะเลสาบที่ตัดผ่านด้านหลังของมหาวิทยาลัยที่มีหงส์และห่านว่ายน้ำผ่านทะเลสาบนั้น โดยทะเลสาบนั้นชื่อ Whiteknights Lake ผมประทับใจนะ เพราะ บรรยากาศดีแต่ปีที่ผมไปค่อนข้างหนาวและหิมะตก ทำให้อาจจะหนาวไป แต่รวมๆ คือ เป็นมหาลัยที่สวยและทันสมัยมากครับ
ความประทับใจ
- ผมได้พบป่ะเพื่อนใหม่ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติก็ตาม ได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ และประทับใจเรื่องกฏระเบียบใน UKเช่นทางม้าลายที่คนมีสิทธิ์ค่อนข้างเยอะในทางเท้า และถนน อีกความประทับใจคือ ผมได้เอาความรู้มาใช้ได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย แต่เนื่องจากต้องกลับมาช่วยกิจการที่บ้านจึงได้ลาออกมา ก็ยังได้คิดว่าหากในอนาคตได้มีโอกาสเริ่มต้นธุรกิจในอสังหาริมทรัพย์ ก็คงอยากเริ่มโดยไม่ลังเล
คำแนะนำส่งต่อถึงรุ่นน้อง
- ผมอยากแนะนำว่าควรอ่านหนังสือที่อาจารย์หรือรุ่นพี่แนะนำเพื่อให้ตามทันในเนื้อหาที่เรียน แล้วก็เรื่องการคัดลอกผลงานเป็นสิ่งต้องห้ามในการเรียนที่ UK ในเรื่องการส่งงานหรือข้อสอบออนไลน์ควรเข้าใจตัวระบบที่เรียกว่า Blackboard ให้บ่อยเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคะแนนอย่างที่ผมเคยผิดพลาดมา และ สุดท้ายการใช้ Agency ผมว่าก็ดีนะ ประหยัดเวลาไปเยอะ และ Brit-Education UK ก็เป็นอีกที่นึงที่ผมคิดว่าเค้าให้คำแนะนำได้ดีเพราะ พี่ๆ เค้าเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยหลายๆ ที่ ยังไงก็ลองดูครับ ขอให้น้องๆ เพื่อนๆ โชคดีครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสมัครเรียน
ติดต่อพี่ๆ BRIT-Ed ได้ที่
Line ID: @brit-ed
Tel: 02-168-7890, หรือลงทะเบียนที่แบบฟอร์มด้านล่างบริการทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นค่ะ
You must be logged in to post a comment.